RSV หรือ ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus)
RSV เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ เชื้อ RSV มีการระบาดในช่วงปลายฝนตกหนาว ติดต่อผ่านสารคัดหลั่งในร่างกาย เช่น น้ำมูก น้ำลาย การไอ จาม และการสัมผัสสารคัดหลั่งโดยตรง พบเจอมากที่สุดโดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
อาการเบื้องต้นของผู้ที่ป่วยเป็น RSV
มีอาการคล้ายปอดอักเสบหรือไข้หวัดธรรมดา มีไข้ ไอแบบมีเสมหะ หายใจลำบาก เด็กมีอาการตัวเขียว หายใจลำบาก หายใจครืดคราด เหนื่อยหอบ ไวรัส RSV จะใช้เวลาในการฟักตัวประมาณ 3 - 6 วัน หลังจากที่รับเชื้อ ซึ่งจะทำให้คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองอาจจะรู้ตัวช้า ต้องคอยสังเกตอาการของลูกหลานอย่างใกล้ชิด หากพบอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษา นอกจากนี้ยังมีวิธีสังเกตอาการง่ายๆ หากบุตรหลานมีอาการที่ผิดปกติไป ซึม หายใจแรง ไม่ร่าเริง ก็ควรดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อรักษาได้อย่างทันท่วงที
การป้องกันเชื้อไวรัส RSV
- หมั่นล้างมือบ่อยๆ ทั้งผู้ปกครองและเด็ก โดยเฉพาะผู้ปกครองเชื้อ RSV อาจจะอยู่ในตัวผู้ปกครองโดยที่มีรู้ตัว บังเอิญไปสัมผัสเชื้อโรคมาจากที่ใดที่หนึ่งแล้วไม่ได้ล้างมือเมื่อสัมผัสกับเด็กก็จะทำให้เด็กได้รับเชื้อได้
- ใส่หน้ากากอนามัย เมื่อต้องออกไปเจอผู้คนในที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน ป้องกันการได้รับเชื้อและการแพร่กระจายเชื้อ
- ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อทำความสะอาดเสมหะภายในจมูก
- ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ช่วยขับเสมหะออกจากร่างกาย และป้องกันภาวะขาดน้ำ
- แยกอุปกรณ์ของใช้ต่างๆ สำหรับผู้ปกครองที่มีบุตรหลานป่วย ควรแยกบุตรหลานออกจากกันและไม่ควรใช้อุปกรณ์ของใช้ร่วมกัน
- ควรให้เด็กๆพักผ่อนให้เพียงพอ อยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท
- รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะทั้ง 5 หมู่
การรักษา RSV
ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาไวรัส RSV โดยตรง แต่จะเป็นการรักษาไปตามอาการ ไม่ว่าจะเป็น การให้ยาลดไข้ ดูแลเรื่องการหายใจ หรือยาขยายหลอดลม เพื่อประคับประคองให้ร่างกายแข็งแรงสร้างภูมิคุ้มกันได้ โดยที่ร่างกายจะใช้เวลาในการฟื้นไข้ประมาณ 2 สัปดาห์ และในปัจจุบันก็ยังพบเด็กเล็กที่ป่วยติดเชื้อ RSV เป็นจำนวนมากเพราะฉะนั้นการดูแลปกป้องบุตรหลานเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจึงสำคัญมาก