ความเครียดคืออะไร?
ความเครียดเป็นอารมณ์หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อเราได้เผชิญกับปัญหาที่ทำให้เกิดความรู้สึกกดดัน กลัว หรือไม่สบายใจ เมื่อเราตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ร่างกายของเราจะตอบสนองอย่างอัตโนมัติด้วยอาการดังนี้ อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงร่างกายสูบฉีดเร็วและแรงมากขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น รวมไปถึงกล้ามเนื้อหดและเกร็งตัว เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการตอบสนองแบบอัตโนมัติที่เรียกว่า “การตอบสนองแบบสู้หรือหนี (Fight Or Flight Response)” เพื่อให้ร่างการต่อสู้และเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ที่ทำให้เกิดภาวะความเครียดนั้นๆ ไปให้ได้ แล้วเมื่อความเครียดหายไป อาการข้างต้นที่กล่าวมาก็จะหายไปด้วยเช่นกัน
สาเหตุของความเครียด
เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย โดยมี 2 ปัจจัยใหญ่ๆ ดังนี้
- ปัจจัยภายนอก เช่น เครียดจากการทำงาน ภาระหนี้สิน ตกงาน เกิดความขัดแย้งในความสัมพันธ์ หรือปัญหาสุขภาพ เป็นต้น
- ปัจจัยภายใน บางคนสารเคมีในสมองไม่สมดุลทำให้เกิดอารมณ์เครียด เศร้า วิตกกังวลง่ายกว่าคนทั่วไป
ประเภทของความเครียด
สามารถแบ่งได้ 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่
- Acute stress คือ ความเครียดที่เกิดขึ้นทันทีและร่างกายก็ตอบสนองต่อความเครียดนั้นทันทีเหมือนกัน เช่น หิวข้าว อากาศร้อนหรือหนาวเกินไป ความกลัว ตกใจ หรือตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย และเมื่อความเครียดหายไป ร่างกายก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
- Episodic acute stress คือ ความเครียดที่เกิดขึ้นทันทีและหลายครั้งติดต่อกัน เช่น มีปัญหาสุขภาพจนทำให้ตกงานและต่อมาคนสำคัญในชีวิตจากไปอย่างกระทันหัน เป็นต้น
- Chronic stress คือ ความเครียดเรื้อรัง หรือความเครียดที่เกิดขึ้นทุกวันและร่างกายไม่สามารถตอบสนองหรือแสดงออกต่อความเครียดนั้นได้ เช่น ความเครียดจากการทำงาน ความเหงา หรือความสัมพันธ์ในครอบครัว ซึ่งความเครียดประเภทนี้อาจส่งผลต่อสุขภาพจิตใจและร่างกาย
ผลของความเครียด
ความเครียดส่งผลต่อทั้งสุขภาพจิตใจและร่างกาย
- ผลต่อสุขภาพจิตใจ : อาการเครียดจะทำให้ความจำและสติปัญญาลดลง และยังมีผลต่อการทำงานของระบบสารสื่อประสาทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์และพฤติกรรม จึงทำให้เกิดอาการซึมเศร้าและวิตกกังวลกว่าเวลาปกติ และในบางรายที่ตกอยู่ในภาวะเครียดมาอย่างยาวนาน อาจก่อให้เกิดอาการทางจิตได้
ดังนั้นเราจึงไม่ควรเก็บสะสมความเครียดให้อยู่กับเรามากเกินไป ควรหมั่นหาเวลาคลายเครียดบ้าง ทำงานอดิเรกที่เราชื่นชอบ ปล่อยวางเรื่องเครียดๆ ออกไปบ้างก็ได้ แต่หากลองทำทุกอย่างแล้วก็ยังไม่หายเครียดซักที ยังมีอีก 1 ทางเลือกคือการไปปรึกษาจิตแพทย์ ทุกวันนี้หลายๆ ท่านยังมีความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับการปรึกษาจิตแพทย์อยู่ว่าจะต้องเป็นคนที่มีอาการทางจิต เป็นโรคจิต หรือเป็นบ้า แต่จริงๆ แล้วการไปปรึกษาจิตแพทย์ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นบ้าอย่างเดียว คนที่มีความเครียด นอนไม่หลับ ขี้กังวล หรือรู้สึกไม่ดีแต่ไม่ทราบว่าความรู้สึกที่ไม่ดีนี้เกิดจากอะไร ก็สามารถเข้าพบจิตแพทย์เพื่อหาแนวทางการแก้ไขและรักษาอาการนั้นๆได้ แต่ถ้ายังกลัวการเดินเข้าโรงพยาบาลไปแผนกจิตเวชอยู่ ก็ยังมีบริการรับปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตผ่านทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์หลายที่ให้คุณได้เลือกใช้บริการ
ตัวอย่างช่องทางที่ให้บริการปรึกษาด้านสุขภาพจิต
สายด่วนสุขภาพจิต : ให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยากว่า 30 ท่าน จากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
ช่องทางการติดต่อ : โทร 1323
ระยะเวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง
อัตราค่าบริการ : ฟรี
Ooca : ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาทางด้านจิตใจโดยจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา
ช่องทางการติดต่อ : www.ooca.co หรือบนแอปพลิเคชั่น Ooca ทั้งระบบ Android และ ios
ระยะเวลาทำการ : 08.00 – 02.00 น.
อัตราค่าบริการ : สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี ฟรี
สำหรับบุคคลทั่วไป ปรึกษากับนักจิตวิทยาเริ่มต้น 1,000 บาท / ครั้ง, ปรึกษากับจิตแพทย์เริ่มต้น 1,500 บาท / ครั้ง
- ผลต่อสุขภาพร่างกาย : อาการเครียดจะกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้เกิดอาการหน้ามืด เป็นลม เจ็บหน้าอก ความดันโลหิตสูง และหากตกอยู่ในความเครียดเป็นเวลานานก็จะส่งผลให้สุขภาพร่างกายอ่อนแอลงเรื่อยๆ เนื่องจากเกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมระบบต่างๆ ของร่างกาย
หันมาดูแลรักษาร่างกายตั้งแต่วันนี้ ออกกำลังกายวันละนิด และรักษาจิตใจให้แจ่มใสวันละหน่อย เพื่อร่างกายที่มีค่าที่สุดของเรา แต่ความเครียดบางทีก็เลี่ยงยากเพราะเป็นสิ่งที่เราต้องพบเจออยู่ทุกวัน เพิ่มความอุ่นใจให้สุขภาพร่างกาย ด้วยตัวช่วยในการดูแลค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพเฮลท์ พลัส (Health Plus) แบบมีความรับผิดส่วนแรก จ่ายเบี้ยสบายๆ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากสวัสดิการที่มี
- คุ้มครองค่าห้อง สูงสุด 8,000 บาทต่อวัน(1)
- เติมเต็มค่ารักษาพยาบาลจากสวัสดิการที่มี สูงสุด 400,000 บาทต่อครั้ง(2)
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในแบบเหมาจ่าย ทั้งจากการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก จากอุบัติเหตุสูงสุด 40,000 บาทต่อครั้ง(3)
- ไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่าย เมื่อเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในโรงพยาบาลเครือข่าย
- เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
พิเศษสำหรับลูกค้าที่มีสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพ และโรคร้ายแรงกับ OCEAN LIFE ไทยสมุทร รับสิทธิ์ใช้บริการ Best Doctors บริการความเห็นที่สองจากแพทย์ระดับโลก ฟรี ไม่มีค่าบริการ
รายละเอียดบริการ Best Doctors คลิก
หมายเหตุ:
(1) กรณีเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน สำหรับแผน 4
(2) กรณีเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน สำหรับแผน 3 และแผน 4
(3) คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ กรณีผู้ป่วยนอกภายใน 24 ชั่วโมงของการเกิดอุบัติเหตุ สำหรับแผน 4
- โรงพยาบาลเครือข่ายเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
- การรับประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด
- ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่างๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.med.mahidol.ac.th , www.bumrungrad.com