ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยตอนนี้ดูเหมือนจะดีขึ้น ผู้ป่วยรายใหม่ก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ แต่อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจไป ระลอกใหม่ก็อาจกลับมาได้ทุกเมื่อ การเตรียมความพร้อมเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงก็น่าจะดีกว่า ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการช่วยคุณแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย แล้วทำไมเราถึงควรมีติดตัวไว้ มาดูกันครับ
- ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่ปรับขึ้นอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากให้ความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย
- มีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายไม่มีการแยกย่อยค่ารักษาพยาบาลเป็นหมวดหมู่ ไม่ต้องคำนวณซับซ้อน
- ให้วงเงินคุ้มครองสูง และมีรายการคุ้มครองให้เลือกหลากหลายแต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขความคุ้มครองของแต่ละบริษัท
- ไม่ต้องจ่ายส่วนต่างค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมหากไม่เกินวงเงินสูงสุดที่ได้ทำประกันเอาไว้
- มีแผนความคุ้มครองไม่ซับซ้อน ทำให้เคลมได้ง่าย เพียงอยู่ในวงเงินความคุ้มครองเท่านั้น
ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายเหมาะกับใครบ้าง?
-
กลุ่มคนวัยทำงานหรือคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว
เนื่องจากวัยนี้มักไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย และกินอาหารไม่ตรงเวลา ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจึงเหมาะกับคนกลุ่มนี้ เพื่อทำให้คุณสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่หมดกังวลหากเจ็บป่วยก็ยังมีประกันสุขภาพเข้ามาช่วยเเบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาล -
กลุ่มที่ต้องการความมั่นคงด้านสุขภาพ และกังวลเรื่องค่ารักษาที่ปรับเพิ่มขึ้น
ถึงจะดูแลตัวเองดีแค่ไหนแต่ปัจจุบันมีโรคใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างกรณีเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุกะทันหัน หากมีประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายเอาไว้ ประกันจะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับคุณโดยแถมไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาที่ปรับเพิ่มขึ้น -
กลุ่มคนที่ต้องการลดหย่อนภาษี
ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายนอกจากจะให้ความคุ้มครองสุขภาพแล้ว ยังเป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษีให้คุณได้อีกด้วย โดยเบี้ยประกันสุขภาพนั้นสามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
ก่อนทำประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย ต้องพิจารณาอะไรบ้าง
-
เลือกความคุ้มครองให้เหมาะสมกับตัวเอง
ต้องศึกษารายละเอียดความคุ้มครองให้ครอบคลุมกับความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นอายุรับประกันภัย เงื่อนไขและรายละเอียดความคุ้มครอง ขอยกเว้นของแต่ละบริษัท -
ดูเบี้ยประกันภัยที่เราสามารถจ่ายไหว
วางแผนการชำระเบี้ยประกันภัยให้เหมาะสมกับรายได้ เนื่องจากประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองครอบคลุมอาจมาพร้องกับเบี้ยประกันภัยที่สูงขึ้น และประกันสุขภาพส่วนใหญ่ยังมีการปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยตามอายุอีกด้วย โดยจำนวนเงินค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่เหมาะสมคือไม่ควรเกิน 10 - 15% ของรายได้ -
ตรวจสอบสวัสดิการที่เรามีอยู่
หลายคนมีสวัสดิการของบริษัทอยู่แล้ว หรือมีประกันสุขภาพเล่มเดิมอยู่ แต่อยากได้วงเงินคุ้มครองเพิ่มเติม ก็สามารถเลือกแผนประกันสุขภาพแบบมีความรับผิดส่วนแรก (Deductible) ซึ่งข้อดีก็คือ ค่าเบี้ยประกันภัยจะถูกกว่า เพราะเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมาลูกค้าจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนแรกตามวงเงินความรับผิดส่วนแรก (Deductible) ที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ (ซึ่งสามารถนำไปเบิกจากสวัสดิการที่มี หรือประกันสุขภาพเล่มเดิมได้) ซึ่งหากมีส่วนเกินจากความรับผิดส่วนแรกประกันสุขภาพแบบมีความรับผิดส่วนแรก (Deductible) จะช่วยจ่ายให้ -
เช็กรายชื่อโรงพยาบาลเครือข่าย
ตรวจสอบข้อมูลโรงพยาบาลเครือข่าย เพราะการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเครือข่าย ลูกค้าจะสามารถใช้บริการ Fax Claim ได้ ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง เพื่อความสะดวกสบายในการเข้าพักรักษาตัว และสามารถเข้ารับบริการได้อย่างทันท่วงที่
หากคุณยังไม่รู้ว่าจะเลือกประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายตัวไหนดี
OCEAN LIFE ขอแนะนำแบบประกัน โอเชี่ยนไลฟ์ เอ็นจอย เฮลท์
สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย
ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลชั้นนำ
สบายใจ ไม่ต้องสำรองจ่าย**ให้คุณมีความสุขทุกช่วงชีวิต
- คุ้มครองแบบเหมาจ่าย สูงสุด 5 ล้านบาทต่อครั้ง*
- หมดกังวลค่าที่ห้องปรับเพิ่มในอนาคต เพราะค่าห้องจ่ายตามจริง (ไม่เกินค่าห้องพักเดี่ยวมาตรฐาน)
- คุ้มครองครอบคลุม ทั้งโรคระบาด โรคทั่วไป และโรคร้ายแรง
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก จากอุบัติเหตุสูงสุด 40,000 บาทต่อครั้ง*
- ไม่ต้องสำรองจ่ายเมื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหรือคลินิกในเครือข่ายทั่วประเทศ**
- เบี้ยประกันสุขภาพสามารถนำไปอ้างอิงลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
รายละเอียดแบบประกันเพิ่มเติม คลิก
หรือ โทร. 0 2207 8888
สุดคุ้มรับฟรีบริการ Best Doctors บริการความเห็นที่สองทางการแพทย์ รายละเอียด คลิก
ข้อควรทราบ :
* กรณีเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน สำหรับแผน 5,000,000
** โรงพยาบาล หรือคลินิกเครือข่ายเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
- โอเชี่ยนไลฟ์ เอ็นจอย เฮลท์ เป็นชื่อทางการตลาดของ สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพแบบเหมาจ่าย (H&S Lump Sum)
- สัญญาเพิ่มเติมนี้มีระยะเวลาเอาประกันภัย 1 ปี ผู้เอาประกันภัยอาจขอต่ออายุสัญญาเพิ่มเติมได้ภายใต้เงื่อนไขสัญญาเพิ่มเติม ทั้งนี้ สำหรับปีต่ออายุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเบี้ยประกันภัย หรือให้ผู้เอาประกันภัยมีค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) ขึ้นอยู่กับอายุ อาชีพ การเรียกร้องค่าสินไหม ของผู้เอาประกันภัยรวมถึงเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- ค่าห้องเดี่ยวมาตรฐาน หมายถึง ห้องพักเดี่ยวราคาเริ่มต้นของโรงพยาบาล
- ความคุ้มครองและการจ่ายผลประโยชน์ต่าง ๆ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
ที่มา : www.ddproperty.com, www.set.or.th, www. money.kapook.com